1. ปริมาณกลูต้าไธโอนต่อเม็ดต้องไม่เกิน 250 mg. ถ้าเกินนี้อย.ไม่รับรอง
หากพบเห็นผลิตภัณฑ์ใดที่ระบุว่าเป็นกลูต้าไธโอนมากกว่า 250 mg.ต่อเม็ด พร้อมมีอย.รับรองด้วย สามารถตัดสินได้เลยทันทีว่าปลอมเลขอย.แน่นอน และเป็นสินค้าของปลอมแน่นอน
อ้างอิง : ประก่าศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเรื่องข้อกำหนดการใช้ส่วนประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดกรดอะมิโน
อ้างอิง : ประก่าศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเรื่องข้อกำหนดการใช้ส่วนประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดกรดอะมิโน
2. ต้องมีชื่อและสถานที่ผลิตระบุไว้ชัดเจน
หลายๆผลิตภัณฑ์กลูต้าไธโอนที่ ในฉลาก มีเครื่องหมายอย. แต่ไม่มีชื่อและสถานที่ผลิต หากเรากินไปแล้วเกิดอันตรายต่อร่างกายก็ไม่สามารถเอาผิดใครได้ และอีกหลายๆผลิตภัณฑ์กลูต้าที่ไม่มีทั้งอย. และสถานที่ผลิต อันนี้อันตรายมากๆเลยครับ
3. เลขอย.จะต้องมี 13 หลักและจะอยู่ในรูปแบบ
XX-X-XXXXX-X-XXXX – ผมลองค้นในกูเกิ้ลดูครับ จะเห็นแอลคาร์นิทีนบางยี่ห้อที่มีอย.แต่พอนับเลขอย.พบว่ามี 12 หลักก็มี 14 หลักก็มี รูปแบบตัวเลขก็ไม่ตรงตามนี้ครับ
อ้างอิง : ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องฉลากอาหารใหม่สังเกตุได้อย่างไร โดยกองพํฒนาศักยภาพผู้บริโภค
4. ตรวจสอบผ่าน เวปไซท์องค์การอาหารและยา หรือ โทรสายด่วน อย. ที่เบอร์ 1556
- เป็นวิธีที่ชัวร์ที่สุดเลยครับ โดยนำเลขอย.ทั้ง 13 หลักไปตรวจสอบครับ (เข้าหมวดหมู่อาหารนะครับ เพราะกลูต้าไธโอนเป็นอาหารเสริม ไม่ใช่ยา) – ผมลองเอาเลขอย.ของกลูต้าไธโอนยี่ห้อ หนึ่งไปตรวจสอบพบว่าสินค้าไม่ตรงกัน คือ เค้าเอาเลขอย.ของซอสพริกไปสวมทะเบียนครับ หรือบางยี่ห้อก็แต่งเลขอย.ขึ้นมาลอยๆ ค้นหาเท่าไหร่ก็ไม่พบครับ แต่ล่าสุด มีสินค้าบางตัวนำเอาเลขอย.ของเราไปติด ซึ่งสินค้าเราเป็นกลูต้าไธโอนที่ผ่านอย.รับรองเรียบร้อยแล้ว หากตรวจสอบไม่ละเอียดก็อาจถูกหลอกได้ครับ